น่ากลัวมาก พายุฤดูร้อนถล่ม 3 นาที บ้านพังเสียหายนับ 100 หลังคาเรือน

ช่วงสายของวันที่ 6 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ชาวบ้าน และผู้นำชุมชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนของชาวบ้าน ม.5 บ้านศรีลังกา ม.7 บ้านนาเอี้ยง และ ม.10 บ้านหัวแต ต.เสริมกลาง ที่ได้รับความเสียหายหนักจากพายุฤดุร้อน ซึ่งเกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 5 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน

ที่เกิดเหตุพบว่าชาวบ้านได้เร่งนำหลังคาที่เสียหายออก และเก็บไม้ กระเบื้องที่เสียหายออกเท่าที่จะทำได้ ขณะที่บ้านที่ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องรอส่วนราชการมาช่วยดำเนินการในวันที่ 7 เม.ย. 68 ซึ่งจะระดมทหารและจิตอาสาเข้ามาช่วยในการรื้อหลังคาที่เสียหาย รวมทั้งเร่งซ่อมหลังคาให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ เนื่องจากเกรงว่าจะมีฝนตกลงมาซ้ำเติมอีกครั้งขณะเดียวกันมีบ้าน 2 หลังที่ถล่มลงมาทั้งหลัง หลังแรกบ้านของ นายโกน อายุ 59 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่หลัง เนื่องจากขณะเกิดเหตุอยู่ในบ้านพร้อมกับหลานอีก 2 คน ทำให้วิ่งหนีออกมาไม่ทัน หลาน 1 คน ข้อเท้าแพลง อีกคนถลอกตามตัว โชคดีที่ปลอดภัยทั้ง 3 คน

นายโกน บอกว่า ตนกับหลานนั่งอยู่ในบ้านดูฝนตกตามปกติ เมื่อฝนรอบแรกหยุด จากนั้นรอบที่ 2 ฝนเริ่มมานิดหน่อยและมองเห็นพายุหมุนเข้ามา จึงจะพาหลานวิ่ง แต่พายุมาเร็วมาวิ่งออกมาไม่ทัน เพียงประมาณ 3 นาที บ้านก็ถล่มลงมา ตนเองกับหลานจึงก้มลงกับพื้น ซึ่งก็โชคดีที่เสาบ้านและไม้คานหลังคาที่ถล่มลงมาทับรถเข็น ทำให้ยังมีที่ว่างด้านล่างให้หลบ เมื่อพายุสงบจึงได้ดันหลานค่อย ๆ คลานออกมาจากช่องที่เหลืออยู่ โดยตั้งแต่สร้างบ้านมาหลาสิบปี ยังไม่เคยเห็นพายุที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน

ด้าน ยายแสง อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังที่พังเสียหายจากพายุฤดูร้อน บอกว่า ก่อนพายุมาตนนั่งอยู่ในบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้สร้างเสร็จและเพิ่งเข้าอยู่อาศัยเมื่อเดือน ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ตอนแรกก็มีแค่ฝนตกและเริ่มหยุด ก่อนที่จะมีฝนปรอย ๆ ตามมารอบที่ 2 จากนั้นเริ่มได้ยินเสียงลมดังมาก กระทั่งเห็นเป็นพายุ ตนจึงรีบเดินออกมา และพยายามปิดประตู หาที่คล้องประตู แต่ไม่ทัน จึงยืนนิ่ง เพราะดูแล้วว่ายืนตรงหน้าประตูบ้านจุดนั้นหากเสาล้มก็คงไม่โดนตน จากนั้นไม่นานบ้านก็พังถล่มลงมา รู้สึกตกใจและกลัวมาก พอพายุสงบและได้สติจึงไปหาร่มและเข้าไปดูทรัพย์สินในบ้าน ก่อนจะจึงรีบออกมาอยู่ที่บ้านหลังเดิม ไม่เคยเจอเหตุการณ์ณืแบบนี้เช่นกัน ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่ง โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครอง ได้ตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุที่โรงเรียนบ้านศรีลังกา ซึ่งโรงเรียนก็ได้รับความเสียหายบางส่วน ต้องเร่งซ่อมหลังคาในส่วนที่ภายในห้องมีอุปกรณ์สำคัญก่อน เพื่อจะไม่ได้เกิดความเสียหายหากฝนตกลงมาเพิ่มเติม สำหรับความต้องการของหมูบ้านขณะนี้คือกระเบื้องมุงหลังคา ที่อาจจะไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้มากกว่า 1,000 แผ่น